นุ่นนิ่นมาแล้วค้าาา ! วันนี้มาในฐานะติ่งของ พช ( พช ย่อมาจาก พี่เชียร์) หรือนามเต็มว่า เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ ซึ่งได้ไปออกรายการ The Attitude ทางช่อง True 4 U มาค่ะ
ทีนี้ เรามันพวกหัวขี้เลื่อยเนอะ ฟังเฉย ๆ ก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาจ้า 555 เลยต้องมานั่งจดไว้ 6 ข้อคิดจาก พช เอาไว้อ่านซ้ำ ๆ ทบทวนให้ฝังไปในมโนจิต ชีวิตเราเราต้องกำหนดเองค่ะ !
1. ไปถึงปลายทาง ระหว่างทางก็ต้องแฮปปี้ด้วย

“การที่จะทำงานให้สำเร็จได้จริง ๆ ต่อให้ตัวเลขมันสำเร็จ แต่ถ้าระหว่างทางมันไม่แฮปปี้ ไม่มีความสุขเลย เชียร์ถือว่านั่นไม่ใช่ผลสำเร็จที่แท้จริง”
2. “จะไม่เสียใจในสิ่งที่เราทำไปแล้ว”

“จะไม่เสียใจในสิ่งที่เราทำไปแล้ว คือไม่ว่าผลนั้นมันจะออกมาดี มันก็เป็นสิ่งที่เป็นรางวัลให้เรา แต่ถ้าผลนั้นมันออกมาไม่ดี เราก็ต้องดูและเรียนรู้มันว่า อ๋อ…เราทำอย่างนี้มันไม่ดี และผลที่มันไม่ดีมันสอนอะไรเรา พยายามมองหาส่วนดีในส่วนไม่ดีอยู่
ทำไมถึงไม่เสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้ว เพราะว่าถ้ามันเสียใจ คุณต้องคิดให้ดีก่อนที่คุณจะทำอะไรก็ตาม แล้วมันจะทำให้คุณไม่เสียใจหรอกถ้าคุณคิดดีแล้ว”
3. เราไม่เคยมองว่าเราแข่งกับใครเลย เราแข่งกับตัวเอง

“ตูนแข่งกับเป้าหมายที่ตูนตั้งไว้ เชียร์ก็มองว่าเราแข่งกับสิ่งที่เรารับผิดชอบและทำไปให้มัน achieve ถึงเป้าที่เราวาง เลยไม่เคยมองว่า เฮ้ย…อันนี้มาแบบนี้แล้วว่ะ รู้สึกไม่ดี เหมือนมองซ้ายมองขวาตลอดเวลาว่าใครจะขึ้น เรามองแค่ข้างหน้าของเรากับทางของเรา ทำให้มันดีที่สุดแค่นั้นเอง แล้วเชียร์รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องดีมากที่เราไม่ทุกข์กันเลย”
4. ตั้งใจ ไม่มีอะไรง่าย และอย่าหยุดเดิน

“การที่เราตั้งใจจะทำธุรกิจอะไรสักอย่าง มันคือการตอบผลของความพยายามของตัวเอง ฉะนั้นแล้ว คือ กว่าจะสร้างอะไรขึ้นมา มันไม่มีอะไรง่ายเลย อยากให้ทุกคนตั้งใจมาก ๆ แล้วก็ภูมิใจกับมัน คือมันจะเดินช้า เดินเร็ว แต่ตราบใดที่เรายังเดินเรายังมีลมหายใจทำมันอยู่ ภูมิใจกับมันมาก ๆ ค่ะ จริง ๆ แล้วเชียร์เชื่อว่า ถ้าคนมุ่งหน้าแบบนี้ มันไม่มีใครไม่สำเร็จ”
“เรารู้สึกว่าเราได้พอใจในผลที่เราทำ ภูมิใจในสิ่งที่เราตั้งใจกับมันมา เชียร์ไม่ได้บอกว่าเชียร์สำเร็จมาก แต่เชียร์แค่ภูมิใจกับมันมาก แล้วเชียร์ก็จะก้าวกับมันต่อไป”
5. เสียใจแค่ไหนก็ต้องเดินต่อ ทำหน้าที่ของเราต่อ

“เชียร์ไม่อยากให้ตัวเราเองร้องไห้จนแบบ เออ…เดี๋ยวพักกองก่อน รอเชียร์ก่อน น้องไม่ไหว เชียร์รู้สึกว่าเราไม่โอ.เค. ไม่อยากให้มันเสียงานแบบนั้น เชียร์ก็ขอบคุณตัวเอง เรายังแบ่งความเสียใจเก็บไว้ได้ก่อน แล้วเราเอาใจที่เราต้องทำงานรับผิดชอบกับสิ่งที่เราต้องทำ ลุยมันไปได้เต็มที่ เวลานี้เราควรจะทำอะไร เวลานี้เราควรจะเป็นแบบไหน โอ.เค. เวลานี้เราเสียใจได้แล้ว แต่เมื่อเวลาที่เราต้องกลับมา ยังไงเราก็ต้องเดินหน้าต่อ คือเชียร์ว่าคำนึงคือ ยังไงมันก็ต้องเดินหน้าต่อ ถ้าเราเอาตัวเองว่าวันนี้ไม่ได้ วันนี้ไม่พร้อมเสียใจอยู่ วันนั้นทั้งกองอาจจะไม่ได้ถ่ายเลยก็ได้ แล้วเชียร์ว่ามันมีผลดีตรงไหน ? ยังไงเชียร์ก็ต้องกลับมาถ่ายอันนี้อยู่ดี ฉะนั้น เราจะทำให้มันเกิดผลเสียเพื่ออะไร เชียร์ว่าคำว่า รู้หน้าที่ เนี่ย มันสำคัญมาก”
6. ไม่คาดหวัง = ไม่ทุกข์

“คือเชียร์ว่าเชียร์แฮปปี้ในการที่เราเป็นอยู่แบบนี้ทุก ๆ วัน คนที่โสดแล้วไม่แฮปปี้ มองดี ๆ คุณกำลังคาดหวังอยากจะมีใครรึเปล่า ? บางทีพยายามมาก ๆ ให้เขาหันมาสนใจ เพราะอะไรล่ะ ? เพราะเราก็คาดหวังอยากให้เขามาสนใจไง เชียร์อยู่งานในวงการ เชียร์เจอแฟนคลับมารักเรา เรารักเค้าตอบ อันนี้มันก็เป็นความรักในอีกรูปแบบหนึ่งเช่นกัน เราก็รักเขาได้ มันก็ทำให้เราแฮปปี้ได้นี่ หรือเราทำงาน เราสนุกกับงานที่ทำเราก็แฮปปี้ได้นี่ คือมองดี ๆ เชียร์ว่าในชีวิตคนเรามันมีเรื่องแฮปปี้เยอะมากเลยนะ แต่เราอ่ะชอบไปคาดหวังกับอะไรที่มันจะทำให้เราทุกข์”
สรุปก็คือดูรายการ The Attitude จนจบรายการ หัวใจหลัก ๆ อยู่ที่ “วิธีคิด” ของ พช แหละค่ะ คิดดี คิดบวก มันเดินได้เร็วกว่าเดินไปปาหินใส่หมาไปตลอดทางจริง ๆ คนเราจะสุขจะทุกข์ก็อยู่ที่มโนจิตจริง ๆ หนา
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดี ๆ นะคะ พช สักวันหนูจะไปสัมภาษณ์พี่แน่ ๆ
แล้วเจอกันค่ะจุ๊บ ๆ 🙂