เดินทางมาได้ครึ่งเรื่องแล้วค่ะ สำหรับละครระทึกขวัญแห่งปี นั่นคือเรื่อง ‘ล่า’ ที่กำลังออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคารทางช่อง One 31 ตัวนุ่นเองก็ได้มีโอกาสติดตามละครเรื่องนี้ทั้งทางโทรทัศน์และตามอ่านในทวิตเตอร์ ยอมรับว่า…พล็อตของละครเรื่องนี้หดหู่ทีเดียวค่ะ
ที่สำคัญ คือ เมื่อพูดถึงเรื่องของการ ‘ถูกข่มขืน’ ยังมีผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังมีความเข้าใจแบบไม่ถูกต้องนัก นุ่นจึงขอยกหูกริ๊งไปสัมภาษณ์ “พี่ป๋อง สุดธิดา พรเจริญ” นักสังคมสงเคราะห์ของ สหทัยมูลนิธิ เสียเลย และนี่ก็คือ 4 ความเข้าใจผิดที่อยากเล่าให้ทุกท่านอ่านค่ะ…
1.ผู้หญิงแต่ตัว ‘โป๊’ เท่านั้น จึงจะถูกข่มขืน
น่าเศร้านะคะ ถูกล่วงละเมิดก็หดหู่มากพออยู่แล้ว ยังมาถูกกระทำจากคนในสังคมเพราะคิดว่าผู้หญิงที่ถูกข่มขืนนั้นสมควรโดนแล้ว ก็เอาตัวเองไปเป็นเหยื่อเองนี่ (การพูดแบบ Victim Blaming : กล่าวโทษว่าเหยื่อเป็นฝ่ายผิด แล้วผู้กระทำล่ะ?) มีนิทรรศการหนึ่งค่ะ เขาจัดไว้ได้น่าสนใจมาก ชื่องานว่า “What Were You Wearing: Survivor Art Installation” จัดโดยมหาวิทยาลัย Kansas ประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ โดยภายในนิทรรศการก็จะจัดแสดงเสื้อผ้าที่ผู้หญิงถูกข่มขืนได้ใส่ในวันเกิดเหตุ ใช่ค่ะ…เสื้อผ้าที่พวกเธอใส่ในวันที่ถูกกระทำไม่ได้โป๊วาบหวิวเลยแม้แต่น้อย เป็นเสื้อผ้าธรรมดาที่พวกเราใส่กันนี่แหละ
แม้แต่ประเทศที่มีวัฒนธรรมการแต่งกายมิดชิดมาก ๆ อย่างแถบตะวันออกกลางก็ยังมีคดีข่มขืน
ดังนั้น ต่อให้ใส่เสื้อผ้าคลุมห่มทั้งตัว ก็ไม่ได้แปลว่าจะปลอดภัยจากการถูกข่มขืนเสมอไป
2. ผู้หญิง ‘เดินในที่มืดและเปลี่ยว’ เท่านั้น จึงจะถูกข่มขืน
จริงอยู่ค่ะ การเดินในที่เปลี่ยว ๆ เวลากลางคืนย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่ออันตรายต่างๆ แน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่นุ่นอยากบอก คือ แม้แต่เรานอนอยู่บ้านเฉย ๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกข่มขืนได้เช่นกันค่ะ มีข่าวให้เห็นมาตลอดที่วัยรุ่นบุกไปข่มขืนคนแก่ถึงที่นอนบ้างล่ะ ลุงข้างบ้านหื่นบุกห้องเด็กหญิงบ้างล่ะ แม้แต่บางเคสผู้หญิงที่เดินจะถึงบ้านอีกไม่กี่ก้าวก็ถูกฉุดไปข่มขืนได้ อยู่โรงเรียนหรือบ้านเพื่อนก็เกิดเหตุข่มขืนได้ อันตรายมันอยู่รอบตัวเราจริง ๆ นะคะ ไม่ได้จำกัดแค่ในที่เปลี่ยวหรือที่อโคจรเท่านั้น
3. ผู้ก่อเหตุข่มขืนต้องเป็น ‘คนเลวหน้าเหมือนโจร’ เท่านั้น
แฟนละครบางท่านก่อนได้รับชมละครเรื่องล่า ก็มีเสียงวิจารณ์มาบ้างค่ะ ว่าการแคสติ้งผู้มารับบท 7 ทรชนนั้นไม่เหมาะสมเลย บางคนก็หล่อไปบ้าง บางคนก็ดูหน้าตาตลกไปบ้าง นุ่นว่าจริง ๆ สิ่งที่ทางทีมงานจะสื่อกับเราก็คือ ‘ผู้กระทำ’ ไม่เคยมี Pattern ของใบหน้าที่ตายตัวหรอกค่ะ ไม่จำเป็นว่าต้องหน้าตาซกมกดูเป็นยาจกถึงจะเป็นโจรเป็นผู้ร้ายได้ เพราะในหลายคดี ผู้ร้ายก็มาในคราบของคนที่เรากราบไหว้นับถือกันอยู่ทุกวัน อย่างครู พระ ญาติ เพื่อน หรือคนในครอบครัวนี่แหละค่ะ ไม่ได้เป็นคนไกลตัวที่ไหนเลย
4. ฉันมีหน้าเป็นอาวุธ ไม่มีทางถูกข่มขืนหรอก
เพราะในความเป็นจริง ต่อให้คุณไม่มั่นใจในใบหน้าจนแทบจะไป Let me in Thailand ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เสี่ยงต่อการถูกข่มขืน ไม่จำเป็นค่ะว่าคนที่ถูกข่มขืนต้องเป็น คนสวย เท่านั้น ยกตัวอย่างจากคดีที่คนชราถูกข่มขืน เด็กเล็ก ๆ เพียงไม่กี่ขวบถูกข่มขืน บ่งชี้ให้เราเห็นแล้วว่า จะเพศไหน วัยไหน รูปลักษณ์แบบไหน ต่างก็มีโอกาสถูกล่วงละเมิดได้ ไม่มีสูตรตายตัวสำหรับผู้ถูกกระทำเช่นกันค่ะ
พี่ป๋องฝากมาบอกอีกนิดค่ะว่า เมื่อใดก็ตามที่เกิดเหตุ ขอให้เรามี ‘สติ’ พยายามจดจำทุกอย่างให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้สามารถติดตามและเก็บหลักฐานในการเอาผิดคนร้ายได้ นุ่นเข้าใจค่ะว่า เมื่อเกิดเหตุกับใครก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือเลย
ดังนั้น ขอให้ประคับประคองสติให้ได้ก่อน จากนั้นจึงไปหาคนที่เราไว้ใจเพื่อให้เขาพาไปแจ้งความ ก่อนนำบันทึกประจำวันไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล (ไม่ต้องอาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อผ้านะคะ พยายามเก็บหลักฐานเดิมเอาไว้) เราจะได้รับยาป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ยาต้านเอดส์และยาป้องกันการตั้งครรภ์ทันที ถ้าเราไปถูกต้อง เราก็จะได้รับการดูแลที่ถูกต้อง รวมถึงถ้าคนใกล้ชิดของคุณถูกกระทำ ขอให้ให้กำลังใจเขาเยอะ ๆ ปลอบใจเขา อย่าไปคาดคั้นหรือกล่าวโทษ เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากการสร้างบาดแผลในใจให้ลึกและเจ็บมากกว่าเดิม
อีกอย่างก็คือ เมื่อสงสัยว่าจะมีเหตุทำร้ายร่างกายหรือล่วงละเมิดทางเพศ สามารถโทร.แจ้ง 191 พร้อมระบุเหตุการณ์และพิกัดให้ชัดเจนได้เลยค่ะ นั่นคือสิ่งที่พวกเราสามารถจะช่วยเหลือกันได้ในสังคม ที่อยากฝากไว้ที่สุดคือ ขออย่าได้ประมาท ขออย่าได้ชะล่าใจว่าภัยของการข่มขืนยังไงก็มาไม่ถึงตัวเรา
เพราะภัยใดที่เกิดกับคนอื่นได้…มันก็เกิดกับเราได้เช่นกัน
energyying.com 