จากการดูภาพยนตร์เรื่อง “นาคี 2″ นุ่นดูบนพื้นฐานของการเป็นคนอีสาน เป็นสาวไทบ้านธรรมดา ๆ มีความเชื่อเรื่องพญานาคมาบ้างเล็กน้อย และชอบพี่ญ่าอยู่เป็นทุนเดิม 555 จึงรู้สึกว่า…
- ชอบบรรยากาศของหนัง
ถ่ายทอดความเป็นอีสานชนบทออกมาได้ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ ทั้ง ๆ ที่พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ ไม่ใช่คนอีสานเลย นับว่าทีมงานทำ Research กันมาดี คนอีสานดูแล้วรู้สึกว่า เอ้อ…โอ.เค. ดูไม่ปลอม ไม่ผลิตซ้ำภาพจำผิด ๆ ที่ทำให้อีสานดูกันดาร ดูแห้งแล้งน่าเวทนาจนเกินงาม
- บทภาพยนตร์
อันนี้เห็นด้วยกับที่หลาย ๆ รีวิวกล่าวไว้ก่อนหน้านี้นะคะ 555 คือบทเอื่อยตอนช่วงแรกจริง แต่ช่วงท้าย ๆ คือสนุกมากกกกก ลุ้นไปอีก และปมหลาย ๆ ประเด็นยังไม่ค่อยเคลียร์ ยังไม่ปั๊วะแบบขั้นสุด เหมือนจะเปิดประเด็นไปสู่นาคี 3 แต่พี่อ๊อฟจะสร้างก็ได้นะ หนูยินดีซื้อตั๋วไปดูค่ะ ฮ่า ๆ
- โลเกชั่น
โอ๊ย…อยากจะหอมหัวทีมงานสักสามฟอด คือไปสรรหามาจากไหน สวย ๆ ทั้งนั้นเลย เชียงคานคือเห็นแล้วอยากไปอีก ฟีลลิ่งริมโขงคือมันใช่มาก ยิ่งผลงานของพี่อ๊อฟนั้นขึ้นชื่อเรื่องของภาพสวย เพลงเพราะอยู่แล้ว คุณคะ…รายละเอียดงานศิลป์เอาไปเลย 10 10 10

- CG
คุณขา ซีจีของเขาเริ่ดดดมากก ละเอียดยันน้ำลายในปากพญานาคอ่ะคิดดู มีการออกแบบดีไซน์นาคให้ดูเป็นพญานาค + บาซิลิสในแฮร์รี่ พอตเตอร์นิด ๆ แต่นาคถ่ายทอดอารมณ์ผ่านสายตาได้ด้วยจ้า คือดูออกเลยว่าเศร้านะ โกรธนะ เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตจริง ๆ
- นักแสดง
เอาอยู่ทุกคนค่ะ ทำการบ้านกันมาดีมากกก ดูแล้วเป็นธรรมชาติ ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาดี พี่แต้วคือมาน้อยแต่ขโมยซีนเว่อร์
สำหรับการดึงนักแสดงตลกอย่างพี่อี๊ด โปงลางสะออนและปอยฝ้าย มาลัยพร มาแสดงนั้น โอ๊ยยย มันม่วนอีหลีเด้อค่ะ 555 (ม่วน ภาษาอีสานแปลว่า สนุก) พี่สองคนช่วยสร้างเสียงหัวเราะอย่างแท้จริง หากเป็นคนภาคอื่นมาดูไม่รู้จะเก็ตมุกไหมนะคะ แต่สำหรับสาวไทบ้าน มันเป็นความตลกที่เป็นธรรมชาติดีค่ะ
ไม่เกินงาม ไม่หยาบเกินไป ไม่ยัดเยียดความตลกจนอึดอัด
นี่แหละความบ้าน ๆ ซื่อ ๆ ที่เป็นเสน่ห์ของคนอีสาน

- อ่านมาถึงตรงนี้ ขออวยพี่ญ่าหน่อย
พี่ญ่าผู้งาม 555 พูดอีสานฟังม่วนหู สื่ออารมณ์ผ่านสายตาดีมาก ที่สำคัญ คอสตูมที่พี่ญ่าใส่อ่ะโคตรธรรมดาเลยนะ ใส่ซิ่น ใส่เสื้อแขนกุด ใส่ผ้าคล้องคอ แต่คือดูสวย ดูแพ๊งแพงงง ตัดภาพมาที่ดิฉันใส่ คงเหมือนผีปอบอ่ะค่ะบอกเลย 5555
- ความผิดคาด
ตอนแรกที่ซื้อตั๋วไปดูคิดว่าจะเป็นหนังรัก น้ำตาท่วมจอแน่ ๆ แต่เปล่าเลยจ้า…ฟีลลิ่งหนังออกแนวสยองขวัญ มีความรัก ความเชื่อ ความศรัทธา สืบสวนสอบสวน มีตลกขำขันบ้าง แต่เด็ก ๆมาดูอาจสิย่านเด้อ (ย่าน ภาษาอีสานแปลว่า กลัว)
สภาพศพแต่ละคนนี่ ขนาดดิฉันโตเป็นควายแล้วยังไม่กล้าดูตรงเลยจ้า ๆ เลื่อนลูกกะตาไปมองทางอื่น 555
- ข้อคิดที่ได้เรียนรู้จากหนัง
– Social Bully อย่าแห่ไปด่า ไปถล่ม ไปประณามใครตาม ๆ กันถ้าเรายังไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง ซึ่งเรื่องแบบนี้มีทุกที่ ทุกสังคม เราด่าเขาเสร็จเราก็ใช้ชีวิตของเราต่อได้ แต่คนที่เขาถูกกระทำล่ะ มันไม่แฟร์กับเขาเลยนะ
– รู้จักเคารพความแตกต่างหลากหลายของคนบ้าง แม้บางเรื่องเราจะมองว่ามันโคตรงมงายเลย แต่เมื่อมาอยู่ร่วมกันในสังคม เราก็ต้องอดทนและยอมรับความแตกต่างนี้ ถ้าเราจะไล่เกลียดคนที่เห็นต่างจากเรา ก็คงต้องไล่เกลียดคนทั้งโลกอ่ะ เพราะทุกคนเขาก็มีความคิด ความเชื่อ เป็นของตัวเอง
– การยึดติดมีแต่จะทำให้เกิดความทุกข์ โดยเฉพาะการยึดติดและไม่ปล่อยวางในเรื่องของ “ความรัก”
– โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ ทุกอย่างมีปัจจัย แรงกรรม แรงบุญ ที่ทำให้เราได้พบกัน มันมีเหตุผลในสถานการณ์ต่าง ๆ เสมอ
- สรุป
องค์ประกอบอื่น ๆ ถือว่าสอบผ่านได้คะแนนดีเลยค่ะ ไม่ไก่กาม้าหมุน สมความตั้งใจพี่อ๊อฟพี่แดง และถ้าปรับเรื่องบทให้เข้มข้นอีกนิด ดูแล้วมีเหตุมีผลแอบสะเทือนใจ มีสอดแทรกพุทธศาสนาหน่อย ๆ เหมือนภาคแรก มันจะดีมากเลยค่ะ
ไม่รู้ว่าจิตปรุงแต่งไปเองมั้ย แต่รู้สึกว่าดูแล้วเชื่อเรื่องพญานาคขึ้นมาหลายเปอร์เซ็นต์เลย
เจ้าล่ะ…เซื่อเรื่องพญานาคบ่ ?
นุ่นนิ่น 🙂
Noonniin.com